นอร์เวย์สั่ง การุณยฆาต เฟรยา วอลรัสชื่อดัง ประชาชนถามทำเกินไปไหม?

นอร์เวย์สั่ง การุณยฆาต เฟรยา วอลรัสชื่อดัง ประชาชนถามทำเกินไปไหม?

นอร์เวย์สั่ง การุณยฆาต เฟรยา วอลรัสชื่อดัง ชี้แจงว่าเพื่อความปลอดภัยของงมนุษย์  ด้านนักชีวะวิทยาถามทำเกินไปไหม? กลายเป็นเรื่องสะเทือนใจหลังจากเจ้าหน้าที่ประมงนอร์เวย์สั่ง การุณยฆาต เฟรยา วอลรัสดัง ประจำเมือง โดยอ้างถึงความปลอดภัยของประชาชน เนื่องจากวอลรัสตัวนี้อยู่ใกล้กับมนุษย์มากเกินไป ทำเอาประชาชนชาวนอร์เวย์โกรธเกรี้ยว เพราะเฟรยาถือเป็นวอลรัสขวัญใจผู้คน และดูไม่มีพิษมีภัยต่อมนุษย์

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา ชาวเมืองออสโลถึงกับใจสลาย 

เมื่อทางการนอร์เวย์สั่ง การุณยฆาต เฟรยา วอลรัสเพศเมียที่โด่งดังและเป็นขวัญใจของชาวเมือง จนกลายเป็นเรื่องน่าเศร้าใจ  แฟรงก์ บักเค-เจนเซน อธิบดีกรมประมงนอร์เวย์ได้ชี้แจงกรณีการการุณยฆาตครั้งนี้ว่า เป็นวิธีจัดการเรื่องความปลอดภัยที่อาจจะเกิดกับมนุษยน์ได้ดี และรอบคอบที่สุดแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมานั้นมีการประกาศให้ประชาชนอยู่ห่างกับเจ้าเฟรยา เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ แต่นักท่องเที่ยวก็ไม่ได้สนใจคำเตือนแต่อย่างใด บางคนถึงกับปาสิ่งของใส่มัน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของเรือที่เจ้าเฟรยาขึ้นไปนอน ว่าได้รับความเสียหายอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ทางการนอร์เวย์ได้ทำการหารือกันอยู่หลายเดือน ก่อนจะได้ข้อสรุปว่า การการุณยฆาตคือหนทางที่ดีที่สุด เพราะการเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่พลัดหลงมาจากถิ่นที่อยู่ที่ไกลมาก ๆ นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะต้องใช้ทรัพยากรมาก เช่น บุคลากร ผู้เชี่ยวชาญ และอุปกรณ์ต่าง ๆ

หลังจากแถลงการนี้ออกมาก็เกิดเป็นที่วิพากย์วิจารณ์เป็นวงกว้าง ทั้งในหมู่ประชาชนและนักวิทยาศาสตร์ โดย Rune Aea ผู้เชี่ยวชาญทางด้านชีววิทยาจากมหาวิทยาลัย South-Eastern Norway ก็ออกมาวิจารณ์การตัดสินใจของทางการว่าใจร้อนเกินไป การการุณยฆาตมันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีความจำเป็น ถือเป็นเรื่องที่น่าละอายมาก

ชื่อ เฟรยา ของเจ้าวอลรัสชื่อดังมีที่มาจากชื่อของเทพธิดาในตำนานนอร์ส  มันเป็นวอลรัสเพศเมีย  มันโดดเดี่ยวจากบ้านเกิดอย่างอาร์กติกมาไกลถึง 1,200 ไมล์ หรือราว 1900 กิโลเมตร และมีน้ำหนักตัวมากถึง 600 กิโลกรัม มันเริ่มมีชื่อเสียงในนอร์เวย์ตั้งแต่ปี 2019

โดยนักศึกษาปริญญาเอกด้านการสอนวิทยาศาสตร์คนหนึ่งพบเจอมัน และเริ่มทำการศึกษาแผนที่การเดินทางของเจ้าเฟรยาผ่านการถ่ายภาพ เมื่อภาพเหล่านั้นถูกแชร์บนโซเชียลมีเดีย มันก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ เฟรยา วอลรัสดัง แห่งนอร์เวย์

ปิดตำนาน คู่รักต่างวัย ซอนดานี เศรษฐีวัย 65 ปี วิวาห์สาวรุ่นหลาน วัย 19 ที่เคยตกเป็นข่าวดัง หลังขนสินสอดกว่า 700 ล้านรูเปีย ผ่าน 2 เดือน ลือสะพัดหย่ากันแล้ว

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาที่ผ่านมา หนุ่มใหญ่ที่ชื่อ “ซอนดานี” พ่อม่ายเศรษฐีที่ดิน วัย 65 ปี กลายเป็นข่าวดังเมื่อเข้าพิธีวิวาห์กับ “บาเรนตี” สาววัย 19 ปี ในชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย พร้อมขนสินสอดจำนวนมหาศาล 700 ล้านรูเปียห์ (ประมาณ 1.6 ล้านบาท)  เป็นของขวัญและของกำนัลอีกมากมาย เช่น อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ ทองคำ เครื่องประดับ ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด สื่อท้องถิ่น ระบุ หลังจากแต่งงานอยู่กินกันได้เพียง 2 เดือน คู่รักต่างวัย “ซอนดานี” กับ “บาเรนตี” วัย 19 ปี ผู้เป็นเจ้าสาว ได้ยุติเส้นทางรักกันแล้ว โดยมีข่าวว่าทั้งคู่ได้หย่าขาดจากกันเป็นที่เรียบร้อย โดยชาวเน็ตที่อ้างว่าเป็นเพื่อนบ้านของซอนดานี เป็นผู้เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าว พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า สาวแรกรุ่นนั้นรีบร้อนแต่งงานเกินไป

พบศพเพนกวิน 596 ตัว ตายเกลื่อนบริเวณชายหาดบราซิล

กลายเป็นข่าวสุดสะเทือนใจหลัง เจ้าหน้าที่ พบศพเพนกวิน 596 ตัว ตายเกลื่อนบริเวณชายหาดบราซิล คาดถูกพายุพัดมา เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม สำนักข่าว ซินหัว รายงานว่าเจ้าหน้าที่พบศพเพนกวินเกือบ 600 ตัว ที่หาดซานตา คาตารินา หาดทางตอนใต้ของประเทศบราซิล หลังจากที่ประเทศบราซิลเผชิญกับพายุหมุนนอกเขตร้อน ที่มีความเร็วลมมากกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เจ้าหน้าที่โครงการติดตามหาดลุ่มน้ำซานโตส หรือ PMP ที่มีหน้าที่เฝ้าระวังสัตว์น้ำระบุว่าพบศพเพนกวิน 596 ตัวตายอย่บนหาด ซึ่งคาดว่าเป็นผลพวงจากพายุหมุนนอกเขตร้อนที่ทำให้สัตว์พวกนี้พลัดถิ่น นอกจากเพนกวินแล้วยังมี เต่า และ นกนางนวล ถูกลมพัดมาด้วยเช่นกัน

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ปกติแล้วเวลาสัตว์ถูกพายุพัดมามักจะอยู่ในสภาพอ่อนแอ และเพนกวินมักจะหนีคลื่นความได้ยาก เพราะไม่สามารถบินหนีเหมือนนกได้ และเพนกวินจะจมลงน้ำทะเลที่เต็มไปด้วยคลื่นลมเมื่อโผล่ขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำ

ทั้งนี้ไม่มีการเปิดเผยว่าพบเพนกวินรอดชีวิตหลังถูกพายุพัดมาหรือไม่ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาในประเทศบราซิลระบุว่าพายุลูกดังกล่าวมีความเร็วมากกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เพื่อนบ้านคนดังกล่าว ยังกล่าวอีกว่า ซอนดานี เศรษฐีวัย 65 ปี น่าสงสารมาก เพราะเขากำลังป่วย ข่าวของคู่รักต่างวัยนี้กลับมาได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะโลกโซเชียล ชาวเน็ตหลายคนแสดงความเสียใจและเรียกร้องความรักที่บริสุทธิ์ที่อยู่เหนืออายุและความมั่งคั่ง หรือที่ใครหลายคนเรียกมันว่า “รักแท้” นั่นเอง

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายมีปากเสียง นาย ทัคเกอร์ ก็ได้เดินออกจากร้านโดยไม่ซื้อสินค้า ก่อนจะกลับมายิงแคชเชียร์คนดังกล่าวจนเสียชีวิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกสองคนคือแคชเชียร์ที่โดนกระสุนเฉี่ยว กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบที่ยิงโต้ตอบกับคนร้าย

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป