ชาวเน็ตร่วมชื่นชมพลเมืองดีนำตัว แมวดาว ส่งคืนอุทยานน้ำหนาว หลังพลัดหลง เผยเตรียมนำไปดูแลในอนุบาลก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เพจเฟซบุ๊ก สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) ได้เล่าเรื่องราวน่ารักๆหลังจากมีพลเมืองดีช่วยนำแมวดาวที่พลัดหลง ส่งคืนให้เจ้าหน้าที่ประจำอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำเจ้าแมวดาวไปดูแลในอนุบาลก่อนจะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติอีกครั้ง
ทางเพจเฟซบุ๊กระบุว่า “ชื่นชมพลเมืองดี นำน้อง แมวดาว (Prionailurus bengalensis)
สัตว์ป่าคุ้มครอง พลัดหลง มาส่งให้กับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เพื่อนำไปอนุบาลก่อนปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ แมวดาว มีสถานะเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
ขอขอบคุณการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ที่ช่วยกันสอดส่องดูแลทรัพยากรสัตว์ป่าของไทย หากพบสัตว์ป่าพลัดหลง บาดเจ็บ หรือการกระทำผิดเกี่ยวกับสัตว์ป่าและป่าไม้ โทรสายด่วน 1362 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช”
หลังจากที่เรื่องราวนี้ได้รับการเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็ได้เข้ามาชื่นชมความน่ารักของแมวดาว พร้อมขอบคุณพลเมืองดีที่นำแมวดาวส่งคืนเจ้าหน้าที่ด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม อีโต่ง หลังมีคลิปฉุดเด็กชายอายุ 13 ปี ไปนั่งตักหวังอนาจาร เจ้าตัวปฏิเสธ บอกแค่ถามทางเฉยๆ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ได้เข้าจับกุม นายยุทธพงษ์ หรือ อีโต่ง ซึ่งเป็นบุคลลที่ปรากฎในคลิปที่ผู้ก่อเหตุได้ฉุดแขนเด็กชายไปนั่งตักหวังทำอนาจาร ที่ริมถนนสายบ้านหนองจิก หนองแวง ไป อ.พระยืน เมื่อช่วงบ่ายโมงวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และได้มีการแจ้งความไปก่อนหน้านี้นั้น
เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมอีโต่งได้ที่บริเวณริมถนน ต.หนองบัว อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ตรวจสอบรถจักรยานยนต์พบเอกสารจำนวนมาก เงินธนบัตรใบละ 20 บาท ปึกใหญ่ โดยนายยุทธพงษ์เผยว่าเงินจำนวนนี้ได้มาจากการขายของและขอชาวบ้าน ในวันเกิดเหตุตามคลิปนั้นแค่ถามทางไม่ได้กระทำไม่ได้มีเจตนาอนาจารเด็กแต่อย่างใด
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระยืนเพื่อสอบปากคำดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งรายละเอียดต่างๆ นั้นยังไม่มีการเปิดเผย จะต้องรอทางพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำให้แล้วเสร็จก่อน และจะรายงานให้ทราบต่อไป
ก่อนหน้านี้ทางศาลได้ออกหมายจับอีโต่งในข้อหา กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยเด็กนั้นไม่สามารถขัดขืนได้ , พาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร , ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือยอมจำต่อสิ่งนั้น และพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง
เศร้า! เจ้าอาวาสผูกคอตาย ก่อนเสียชีวิตบอกลูกวัด ไม่ค่อยสบาย
เศร้า เจ้าอาวาสผูกคอตาย กับกุฏิที่พักของวัดจังหวัดพิษณุโลก ก่อนลาโลกบอกกับลูกวัด ไม่ค่อยสบาย ไม่ทราบถึงสาเหตุแน่ชัดในการก่อเหตุสลด พ.ต.ท.สมหมาย รักป้อม พนักงานสอบสวน สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้รับรายงาน พระผูกคอเสียชีวิต ภายในกุฏิที่พักของวัดแห่งหนึ่งใน ต.ชัยนาม อ.วังทอง จ พิษณุโลก
เมื่อถึงที่เกิดเหตุทราบว่าผู้ตายคือเจ้าอาวาสใช้เชือกไนล่อนสีขาวผูกคอกับหน้าต่างภายในห้องเก็บของติดกับกุฏิ บวชมาแล้ว 27 พรรษา ตรวจสอบสภาพศพไม่พบร่องรอยใดๆ เจ้าหน้าที่จึงนำร่างไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลพุทธชินราชต่อไป
จากการสอบถามน้องสาวของเจ้าอาวาส เผยว่าตนเดินทางมาเยี่ยมหลวงพ่อที่กุฏิ แต่มาถึงพบว่าประตูถูกล็อกจากด้านใน ไม่สามารถเปิดเข้าไปได้ ตะโกนเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีการตอบรับ ก่อนจะตัดสินใจปีนนั่งร้านข้างกุฏิขึ้นไปชะโงกดู พบว่าหลวงพ่อใช้เชือกผูกคอตนเองเสียชีวิตเสียภายในห้องเก็บของติดกับห้องพัก จึงรีบไปตามพระลูกวัดมาช่วยกันงัดประตู เมื่อเข้าไปได้ก็พบว่าหลวงพ่อเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบอย่างละเอียด
ตนได้สอบถามลูกวัดและทำให้ทราบว่าเห็นหลวงพ่อครั้งล่าสุดช่วงฉันเพล หลวงพ่อบอกกับพระลูกวัดว่ามีอาการป่วย ไม่ค่อยจะสบาย ก่อนจะขอตัวเข้าไปพักในกุฏิจนถึงช่วงเย็น และไม่มีใครพบเห็นหลวงพ่ออีกเลย ปกติหลวงพ่อไม่ค่อยพูดคุยกับใคร ไม่เคยเล่าถึงปัญหาความเครียดต่างๆ ให้ฟัง จึงไม่ทราบสาเหตุของการตัดสินใจผูกคอเสียชีวิตในครั้ง
อัตราการคิดภาษี กระเป๋า 20% (+vat 7%) รวม 27% ส่วนรองเท้าและเสื้อผ้า 30% (+vat7%) = 37% ซึ่งเธอก็ไม่ยอม จึงยืนรอจนเวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง มีเจ้าหน้าที่อีกกลุ่มมา ลดหย่อนให้จนเหลือ 54,000 บาท
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป